เด็กเล็กปฐมวัย เพิ่มพูนกายพลังชีวิต ได้เรียนรู้โลกใบใหญ่ด้วยศิลปะแห่งชีวิต Garden work
“งานสวน” เปิดโลกใบใหญ่ของ “เด็กเล็ก”

งานสวน..ฟังแล้ว อาจจะมีทั้งสงสัยและอยากรู้ บางท่านอาจจะนึกถึงการเตรียมอุปกรณ์ขนาดจิ๋ว ให้กับวัยจิ๋ว หรือ นึกไปถึงพื้นที่ร่องสวนผลไม้ แปลงปลูกผัก ไร่ นา ที่ใดสักแห่ง พร้อมด้วยคำถามในใจว่า ให้เด็กเล็กๆ ทำงานสวนเชียวหรอ!! จะหนักไปหรือไหม ?
.
แต่เมื่อได้ฟังแนวคิด และกระบวนพาเรียนรู้จาก ครูอุ้ยหรือแม่อุ้ย คุณครูอภิสิรี จรัลชวนะเพท ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลบ้านรัก แล้วคลายใจ ผันความรู้สึกกลับไปหาความสนุก แบบอัตโนมัติอย่างน่า มหัศจรรย์ใจเชียวหล่ะ แม่ครูผู้ มากประสบการณ์ จาก โรงเรียนอนุบาลบ้านรัก และ โรงเรียนรุ่งอรุณ ได้ออกแบบการเรียนรู้ผ่านกิจวัตรประจำวัน ให้กับเด็ก ๆ ชั้น อนุบาล 1 ถึงอนุบาล 3 ให้สามารถเรียนร่วมกัน ได้อย่างน่าสนใจ
เพิ่มพูนกายพลังชีวิต
.
“งานสวนสำหรับเด็ก ๆ อยากให้มองภาพกว้าง ใช่เพียงแค่การพาเด็กไปทำสวน แต่เป็นการพาเด็ก ไปเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติโดยผ่านการทำงานของผู้ใหญ่ ซึ่งเด็ก ๆ จะได้รับสิ่งต่าง ๆ อย่างมากมาย”
.
เด็กจะได้เรียนรู้จักจิตใจตัวเอง ผ่านการเรียนรู้ธรรมชาติ รู้จักฤดูกาลอย่างเชื่อมโยงกับชีวิตของตน แม่ครู คุณแม่ คุณพ่อ พาเด็ก ๆ ทำสวน เรียนรู้ฤดูกาลที่เกิดขึ้นจริงของโลกใบนี้ได้อย่างชาญฉลาด เด็ก ๆ จะได้สัมผัส ดิน น้ำ แสงแดด อากาศ รู้ว่า แต่ละสิ่งเชื่อมโยงให้ประโยชน์ระหว่างกัน สำคัญไปกว่านั้นหากได้ลงมือ ปลูกผักเพื่อมารับประทานแล้ว ผัก ผลไม้ ที่แสนจะมีประโยชน์ นะไม่ถูกปฏิเสธในการรับประทานตั้งแต่วันที่เด็ก ๆ ได้ลงมือปลูกผักเอง และเชื่อได้ว่าวันนั้นก็จะเป็นวันแห่งความสุขของทุกคนในครอบครัวเลยทีเดียว
ผักที่ “กิน” สู่ (ผัก) ที่ “ปลูก” เปิดความสนใจชวนกินผัก
เมื่อเด็ก ๆ ได้รู้จักฤดูกาลต่าง ๆ และสิ่งรอบตัวที่เอื้อประโยชน์ต่อกันแล้ว การได้รู้จักผักชนิดต่าง ๆ ยังเชื่อมโยงไปสู่การชอบกินผัก รู้จัก ผักต่าง ๆ มากกว่าที่ตนเองกินหรือรู้จัก คุณครูภัทรพัชรีย์ เพลินเพลงเพราะ ให้แนวคิดจากประสบการณ์ของการพาเด็กเรียนรู้กระบวนการ งานสวน แปลงปลูกผักของโรงเรียนรุ่งอรุณ ได้อย่างน่าสนใจว่า
งานสวน ทำให้เกิดความสนใจ ซึ่งเด็กจะได้รู้จักผักต่าง ๆ ที่นอกเหนือไปจากผักที่ตนเองชอบกิน เพราะก่อนการลงมือปลูกผัก จะ นำพาเด็ก ๆ พูดคุยระหว่างกัน ล้อมวง พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ใครรู้จักผักอะไรบ้าง ชอบกินผักอะไรบ้าง คุยกันสนุกสนาน แล้วจะได้นำผักชนิดต่าง ๆ ที่ตัวเองชอบกิน มาช่วยกันเปิดร้าน ทดลองขายผัก ในร้านผักของพวกเรา จากนั้นก็จะพากันคุย ทำอาหารด้วยผัก ก่อนที่จะมีการเปิดอิสระให้เลือกผักที่พวกเราชอบ มาปลูก ความคิดของเด็ก ๆ จะแสดงออกมาด้วยความชัดเจน “ใครชอบกินและคิดว่าจะปลูกผักอะไรในแปลงผัก ของโรงเรียนกันดี” เพราะครูได้สร้างบรรยากาศ ก่อความรู้สึกนึกคิดต่อเนื่อง ตั้งแต่การนำผักที่นำมาประกอบ อาหาร มีเมนูมากมายจากเด็ก เช่น แกงจืดผักกาดข้าว ผัดผักบุ้ง ผัดฟักทองใส่ไข่ เด็กๆ ก็รู้จักผักชนิดต่าง ฟๆ ได้เป็นอย่างดี ผ่านการ รู้จักแบบได้สัมผัส นำมาประกอบอาหารเพื่อรับประทาน กลยุทธ์การเรียนรู้ที่จะเปิดหัวใจ การเรียนรู้สู่แปลปลูกผัก ที่เปิดอิสระให้ลงความคิดอย่างหลากหลายว่าจะปลูกผักอะไรตามใจเด็กตกลงกันในกลุ่ม จึงทำให้แปลกผักของเด็ก ๆ จึงหลากหลาย เช่น หัวไชเท้า ผักบุ้ง กวางตุ้ง แตงกวา ฝักทอง กล้วย ฤดูหนาวปลูกผัก สลัด ฤดูฝนปลูก ผักบุ้งชูช่อยอดดอน สุดแสนจะน่ารักประทาน กล้วยน้ำหว้า ที่ปลูกได้ทุกฤดูกาล งานสวน อีกหนึ่งกุญแจที่ไขโลกความฝันสู่โลกความจริงอย่างมีความหมายต่อชีวิตให้กับเด็ก ๆ เพิ่มพลังกายได้อย่างมีชีวิตชีวา

นิทาน เพลง กลอง “งานสวน” เพิ่มพูนภาษา
พรวน ดิน พรวน ดิน ให้ ดี ขุดหลุม ฝังเกลี่ยดินปิด ฝนตกแล้วแดดก็ออก ใส่ใจรดน้ำบ่อย ๆ ดีใจ พวกเราดีใจ เติบใหญ่หยั่งรากยึดดิน |
พวกเรามีเมล็ดพืชน้อย ๆ รดน้ำนิด ๆ แล้วตั้งตาคอย เมล็ดหยั่งรากงอกลงดินค่อย ๆ ยอดอ่อนน้อยๆ โผล่พ้นบนดิน ใบน้อยสองใบผลิดังถวิล ออกดอกโชยกลิ่นให้เราชื่นใจ |
ประพันธ์ โดย
คุณครูอภิสิรี จรัลชวนะเพท
ผู้ก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลบ้านรัก
งานสวน (Garden work) คือ งานภายนอกบ้าน (Out side door) ที่คนเราได้มีโอกาสทำงานเชื่อมโยงกับ ผืนดินถิ่นอาศัยโดยตรง สัมพันธ์กับแสงแดดและสายฝน ฤดูกาล พืชพรรณในธรรมชาติ ให้ความสดชื่นและร่มเงา เป็นทั้งแหล่งอาหารและปอดของโลกที่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ บ้านที่มีต้นไม้เยอะภายในบ้านจะร่มเย็น มีสัตว์ น้อยใหญ่ นก หนู กระแต กระรอกมาอาศัยอยู่ด้วยมากมาย บ้านไหนมีพื้นแค่ไหน ก็จัดสรรปลูกพืชให้เหมาะกับ การบริโภคของบ้านนั้น มีเหลือก็แจก ปลูกพืชอย่างเราจะกิน จะได้เก็บพืชผักจากสวนครัวของเราไปทำอาหาร ให้คนในบ้าน เศษอาหาร หาวิธีการหมักเป็นปุ๋ย เพื่อกลับมาบำรุงผืนดินให้สมบูรณ์



งานสวน กับการบ่มเพาะกายและใจไปพร้อม ๆ กับ การดำเนินชีวิต ประจำวันในอนุบาล ที่คุณครู และ พ่อแม่ สามารถนำมาส่งมอบความสามารถ ฝึกฝนให้กับเด็กอนุบาล ได้ทดสองความสามารถไปพร้อมๆ กับการเห็นคุณค่าของการเลียนแบบ หรือทำตามอย่างที่เห็น (Immitation)
.
โดยคุณครูและพ่อแม่ มีบทบาทเป็นผู้ให้ การสนับสนุน ให้เด็กๆเห็นแบบอย่างการทำงานของเรา แม้เด็กๆ จะแสดงออกมาด้วยการเล่น (Play) แต่ในขณะที่พวกเขาเล่นเลียนแบบการทำ ไม่ว่าจะเป็น งานบ้าน งานครัว งานสวน สิ่งเหล่านั้นได้ประทับลงไปในใจของพวกเขาแล้ว รายละเอียดและความประณีตที่สั่งสมกันมาในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับบ้านจากรุ่นต่อรุ่นจะไม่เลือนหาย
.
เด็กจะซึมซับชีวิตความเป็นอยู่ที่มีความละเอียดรอบคอบ และประณีตนี้อย่างเคยชิน เขาย่อมปรารถนาจะมีชีวิตแบบนี้เมื่อโตขึ้น และหากเราทำงานบ้านทุกอย่าง “ด้วยใจรัก” (love) มันก็จะไม่ใช่ “งาน” แต่จะเป็นชีวิตที่มีศิลปะ (Art of life) และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ในตัวเราก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงด้านในของเราให้ดีขึ้นได้ จากที่ว่า “ ดี “ (Good) จะยกระดับสู่ คุณธรรม (Goodness) และที่เรียกว่า “ความงาม” (Beauty) ถ้าเรารู้สึกได้ถึงความงามในโลกแล้ว ย่อมคืนกลับเป็นการให้ และนั่นคือการตระหนักรู้ บุญคุณของโลก (Gratitude)



“วัยฟันน้ำนม เด็กเล็ก วัย 0 – 7 ปี ” ต้องการความรัก งานสวน นำพาให้ สัมผัส สัมพันธ์ ใกล้ชิดธรรมชาติ “แม่ครู” พาเรียนรู้โลกใบใหญ่ผ่านงานศิลปะ นิทาน เพลง กลอน เรียนรู้ด้วยกายแห่งพลังชีวิต ที่ (รักษ์) ธรรมชาติ อันแสนยิ่งใหญ่


เรื่อง : ฝ่ายสื่อสารองค์กร สถาบันอาศรมศิลป์
ภาพ : โรงเรียนรุ่งอรุณ และสถาบันอาศรมศิลป์